แผลปากกระจับ

สาว ๆ ท่านใดที่มีรูปปากที่หนา หรือริมฝีปากบนและล่างไม่สมดุลกัน หรืออาจจะไม่พอใจกับรูปทรงของริมฝีปากของตัวเอง และต้องการที่จะทำการแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนรูปริมฝีปากเพื่อให้เข้ารูปและรับกับใบหน้าและเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง การทำศัลยกรรมปากหรือการทำปากกระจับถือเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยนรูปปากของตัวเอง ซึ่งการทำศัลยกรรมปากนั้นอาจทำให้พบกับปัญหาในการทำโดยปัญหาที่พบได้บ่อยในการทำศัลยกรรมปากคือการเกิดแผลปากกระจับหรือการเกิดปากอักเสบติดเชื้อหลังการผ่าตัด จนทำให้ปากบวมเจ่อ เป็นหนอง และหากปล่อยไว้ก็อาจทำให้ริมฝีปากเน่าได้ ดังนั้นการที่จะป้องกันการเกิดปัญหาปากอักเสบติดเชื้อหลังทำคือต้องเข้ารับการผ่าตัดกับสถานบริการที่ได้มาตรฐานและต้องมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น

ศัลยกรรมปากมีแบบใดบ้าง ?

การทำศัลยกรรมปากเป็นการผ่าตัดเพื่อปรับปรุงแก้ไขรูปปากเพื่อให้เข้ากับใบหน้า สาเหตุที่ต้องทำศัลยกรรมปากนั้นก็เพื่อเป็นการแก้ไข ปากหนา ปากบาง ปากคว่ำ ปากห้อย ปากไม่ได้รูป ให้ได้รูปทรงที่สวยงามมากขึ้น ขณะเดียวกันการศัลยกรรมปากยังเกี่ยวข้องกับรอยยิ้ม การเผยอปาก และ การพูดคุย โดยที่การทำศัลยกรรมปากและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับปาก มีรายละเอียดดังนี้

• ศัลยกรรมปากบาง / ทำปากบาง (Lips Reduction)

การทำศัลยกรรมลักษณะนี้ก็เพื่อเป็นการลดขนาดของริมฝีปากบนหรือล่างที่หนาให้บางลง อาจจะผ่าตัดเพื่อลดขนาดเฉพาะริมฝีปากบนหรือริมฝีปากล่าง หรือทั้งบนและล่างก็ได้ ลักษณะของแผล จะอยู่ในริมฝีปาก เย็บด้วยไหมละลาย ประมาณ 7-10 วัน ไหมจะหลุดออกไปเอง ถ้ายังหลุดไม่หมด สามารถตัดออกได้ 

• ศัลยกรรมปากกระจับ (Horn chestnut-shaped lips )

ศัลยกรรมปากกระจับเป็นการผ่าตัดเพื่อตกแต่งริมปากบนให้ดูเรียว สมดุลกับรูปหน้า โดยขอบล่างของริมฝีปากบน ด้านข้างโค้งเว้าขึ้น ส่วนกลางนูนลงมาคล้ายคันศร ริมฝีปากบนดูเชิดขึ้น มองเห็นฟันบนเล็กน้อยเหมือนเผยอนิด ๆ ตลอดเวลา การทำปากกระจับนี้จะทำให้ดูเซ็กซี่ขึ้น สัดส่วนของริมฝีปากบนอาจมีความเรียวแหลมหรือมนของส่วนกลางขึ้นกับความเหมาะสมกับริมฝีปากเดิม  และรูปหน้าของแต่ละบุคคล

• ศัลยกรรมยกริมฝีปาก  (Upper Lip Lift)    

หากต้องการมีริมฝีปากบนที่ดูเซ็กซี่และอ่อนเยาว์ขึ้น ริมฝีปากบนจะต้องยก การยกริมฝีปากบน การทำให้ระยะระหว่างปลายจมูกและริมฝีปากบนสั้นลง  มี 2 วิธี

• ตัดหนังส่วนเกินบริเวณใต้ฐานจมูก โดยการกรีดแผลบริเวณฐานจมูกประมาณ 5-7 มิลลิเมตร โดยตัดโค้งไปตามรูปร่างของปีกจมูกข้างหนึ่ง ไปปีกจมูกอีกข้างหนึ่ง หลังจากนั้นจะเย็บดึงผิวหนังและกล้ามเนื้อใต้รูจมูกขึ้นไป โดยจะทำให้ริมฝีปากบนอยู่สูงกว่าขอบฟันบนประมาณ 3-4 มิลลิเมตร
• แบบแผลขอบปาก แผลอยู่ที่ขอบริมฝีปากบน

• ผ่าตัดเสริมริมขอบปาก (Cupid Bow Enhancement)

วิธีนี้จะเป็นการผ่าตัดยกขอบริมฝีปากบนให้ดูเด่น ซึ่งขอบปากบนจะโดดเด่นขึ้น โดยที่แพทย์จะทำการเสริมเนื้อเยื่อเข้าใต้ผิวหนังด้วยการทำแผลเล็ก ๆ  4 ตำแหน่ง แล้วทำการสอดแผ่นเนื้อเยื่อเข้าไปใต้ผิวหนัง

• ผ่าตัดเสริมร่องปาก (Phitrum enhancement)

วิธีนี้จะเป็นการผ่าตัดเสริมสันกลางร่องปากให้ดูเป็นขอบชัดเจน และขอบปากบนดูโดดเด่นมีมิติ ไม่แบนราบ ซึ่งจะมีวิธีการผ่าตัด 2 วิธี ดังนี้

• แบบกรีดแผลบริเวณฐานจมูกด้านใน โดยที่แพทย์จะทำการกรีดแผลบริเวณฐานจมูกด้านในเป็นรูปตัว V ตัดผิวหนังออกบางส่วนมีความกว้างประมาณ 2-3 มม. เมื่อเย็บแผลแล้วจะทำให้แนวสันและร่องกลางริมฝีปากดูชัดขึ้น
• เสริมแนวสันร่องปากด้วยเนื้อเยื่อ โดยแพทย์จะทำการกรีดแผลเล็ก ๆ บริเวณด้านบนและด้านล่างตามแนวขอบร่องปาก แล้วร้อยแผ่นเนื้อเยื่อไว้ใต้ผิวหนัง เย็บแผลด้วยไหมเส้นเล็ก

• ศัลยกรรมเสริมริมฝีปาก (Lips Enhancement)

ศัลยกรรมเสริมริมฝีปากนี้ทำเพื่อปรับรูปร่างริมฝีปากบนหรือล่างที่บางเกินไป ให้ดูอวบอิ่ม และได้รูปทรงที่สวยงาม การเสริมริมฝีปากมีหลายวิธีดังนี้

• การเสริมริมฝีปากให้อวบอิ่มด้วย PRP, PRP หรือ Platelet Rich Plasma, เป็นนวัตกรรมใหม่ของการทำริมฝีปากเลยก็ว่าได้ เป็นการเพิ่มหรือเสริมริมฝีปาก และบริเวณโดยรอบ ให้อวบอิ่มเต็มไปด้วย คอลลาเจน  และ กระตุ้น การสร้างกล้ามเนื้อด้วยการฟื้นฟูเส้นเลือดและเส้นประสาท

เทคนิคนี้แพทย์จะนำเอาเลือดของผู้เข้ารับบริการประมาณ 5-8  cc. มาทำการปั่นแล้วแยกส่วนที่ต้องการนำมาใช้ แล้วฉีดเข้าไปในพื้นที่โดยรอบริมฝีปาก จะเห็นผลว่าริมฝีปากอูมอิ่มขึ้น ริ้วรอยบริเวณนี้จะดูตื้นขึ้น และจางหายไปบางส่วน

• การเสริมริมฝีปากด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งสารฟิลเลอร์ที่นิยมใช้จะเป็นสารฟิลเลอร์ในกลุ่ม Hyaluronic acid เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เพราะไม่ต้องเปิดแผล ไม่ต้องเย็บและไม่ต้องทำการฉีดยาชา ฟิลเลอร์ที่เติมไปจะค่อย ๆ สลายไป จะคงอยู่ได้ประมาณ 6 – 12 เดือน หลังจากนั้นจะต้องไปฉีดใหม่ เนื่องจากสารฟิลเลอร์นั้นได้สลายหมดไป
• หากต้องการมีริมฝีปากที่อวบอิ่มการเสริมริมฝีปากด้วยแผ่นเนื้อเยื่อกำลังได้รับความนิยม เนื่องจากสามารถเพิ่มขนาดและรูปทรงของริมฝีปากให้ดูเป็นธรรมชาติ โดยวัสดุที่ทำจะเป็นชั้นของผิวหนังบาง ๆ ที่ผ่านกระบวนการนำ Cell, Antigen และ Antibody ออก ซึ่งจะไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านเนื้อเยื่อออกจากร่างกาย จึงไม่ทำให้เกิดการแพ้แต่อย่างใด การผ่าตัดจะใช้เพียงยาชาเฉพาะที่ และมีรอยแผลดังภาพ ไหมที่เย็บจะมีเพียงแค่ 2 จุดเท่านั้น โอกาสที่จะเกิดอาการบวมช้ำมีน้อยมาก และสามารถคงรูปร่างได้มากกว่า 5 ปี 
• เพื่อให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มสามารถนำไขมันตัวเองมาปั่นแยกแล้วนำเฉพาะไขมันมาฉีดใส่ที่ปาก ซึ่งแพทย์จะทำการดูดไขมันออกจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง หรือใต้ท้องแขน

ผู้ที่เข้ารับการทำศัลยกรรมปากกระจับจะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนที่จะเข้ารับบริการ หากเราเลือกสถานบริการพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐานอาจจะไม่มีแพทย์ที่มีความชำนาญคอยให้บริการท่าน และเมื่อแพทย์ไม่มีความชำนาญเมื่อทำออกมาแล้วอาจเกิดแผลปากกระจับได้ และเมื่อเกิดแผลก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้และอาจที่จะต้องทำการรักษาอย่างยาวนานเลยแทนที่การทำปากจะใช้เวลาเพียงแค่ 1 – 3 เดือนเพื่อให้รูปปากเข้ารูปแต่เมื่อเกิดแผลก็อาจยืดระยะเวลาออกไปอีก