เสริมจมูกเป็นการปรับโครงสร้างรูปทรงจมูกโดยการออกแบบเฉพาะบุคคลหลากหลายเทคนิคเป็นการปรับโครงสร้างรูปทรงจมูกโดยการออกแบบเฉพาะบุคคลหลากหลายเทคนิค สำหรับใครที่กำลังมีแผนอยากเสริมจมูก เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง แต่ยังไม่รู้ว่าหลังจากเสริมแล้วจะมีวิธีการดูแลตนเองอย่างไรการดูแลตนเองอย่างไร แผลเสริมจมูกไม่แห้ง เพื่อลดอาการบวมและช่วยให้แผลแห้งไวพร้อมกัน เชื่อว่าหลายคนคงกำลังหาข้อมูลว่าควรเสริมจมูกที่ไหนดีที่เสริมจมูกออกมาแล้วทรงจมูกสวย และปลอดภัย ไม่ต้องเสียเวลาเจ็บตัว
วิธีดูแลตัวเองหลังทำจมูก ช่วยลดบวม แผลแห้งไว
จมูกเข้าที่เร็วสำหรับวิธีดูแลตัวเองหลังจากเสริมจมูก โดยสามารถปฏิบัติได้ตามดังต่อไปนี้
1.ทำตามคำสั่งแพทย์และผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด
ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเหมาะสมเพื่อลดโอกาสที่แผลจะติดเชื้อ ซึ่งจะทำให้แผลหายเร็ว ไม่บวม และที่สำคัญคือ ต้องทานยาตามที่แพทย์สั่งจนครบด้วย
2.ถ้าปวดหรือระบมมากให้ประคบเย็น
หลังจากการเสริมจมูกในช่วงแรก จะมีอาการปวดและระบมมาก หากรู้สึกว่าทานยาไปแล้วอาการไม่ดีขึ้น ให้ใช้แผ่นเจลเย็นห่อด้วยผ้าเพื่อป้องกันน้ำหยดลงบนแผล ประคบไว้บริเวณจมูก หรือนำไปกระคบที่แก้มเพื่อช่วยลดอาการบวมอีกทางหนึ่ง
3.ไม่แต่งหน้า 1 อาทิตย์
หลังจากอาการปวดและบวมที่จะตามมาทันทีหลังเสริมจมูก อาการที่จะตามมาอีกคือ ผิวหน้าบริเวณจมูกและแก้มที่เขียวช้ำ ในระยะนี้ไม่ควรแต่งหน้าโดยเด็ดขาด เพราะในขั้นตอนการทำความสะอาดอาจผิว อาจส่งผลต่อแผลจนเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อขึ้นมาได้
4.ห้ามนอนตะแคง
ช่วง 1 อาทิตย์แรกร่างกายยังไม่มีการปรับโครงสร้างให้เข้ากับจมูกใหม่ ท่านอนตะแคงอาจจะทำให้จมูกที่ทำมาเบี้ยวหรือผิดรูปได้ ดังนั้น จึงควรงดนอนท่านี้ไปก่อน
5.ใช้ใบบัวบกลดบวม
ใบบัวบก เป็นพืชที่มีคุณสมบัติช่วยลดอาการช้ำใน ลดอาการบวมและที่สำคัญช่วยลดรอยเขียวช้ำที่ปรากฏขึ้นบนผิวหน้าให้จางลงได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถทานเป็นเม็ดอาหารเสริม หรือดื่มน้ำใบบัวบกคั้นสดก็ได้
6.งดไข่ ของหมักดองและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
โปรตีนจากไข่จะเข้าไปทำให้รอยเย็บของแผลนูนไม่สวยงาม ดังนั้น ในช่วงที่แผลยังไม่แห้งสนิทควรงดการรับประทานไข่ไปก่อน ส่วนของหมักดองและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ควรงดไปก่อนประมาณ 1 เดือน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่แผลจะอักเสบ และติดเชื้อ หากงดได้ตามนี้ก็จะทำให้แผลแห้งไว จมูกเข้าที่ได้เร็วขึ้o
7.ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือ
วิธีทำความสะอาดแผลง่าย ๆ คือใช้สำลีหรือคัตตอนบัดชุบน้ำเกลือแล้วเช็ดทำความสะอาดเบา ๆ บริเวณแผล เพื่อสุขอนามัยที่ดี ซึ่งจะช่วยทำความสะอาดได้ทั้งคราบเลือด และคราบน้ำเหลืองที่อยู่บนแผลได้อีกด้วย
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการติดเชื้อและอักเสบหลังเสริมจมูกมีดังนี้
- เกิดจากร่างกายปฏิเสธซิลิโคนแต่โอกาสเกิดน้อยมากถึงมากที่สุดหากใช้ซิลิโคนที่ได้มาตรฐาน
- ขาดการดูแลตนเองหลังผ่าตัดเช่นการกินของแสลง (ของหมักดองปลาร้า อาหารทะเลที่ไม่สด)การสัมผัสบริเวณ แผลบ่อย (จับ ลูบคลำ แคะ แกะ เกา)
- เกิดจากการกระทบกระเทือนเช่น ไอจามอย่างรุนแรง ถูกกระแทกจากข้อศอก สิ่งของ ถูกบิดจมูก เสื้อเกี่ยวปลาย จมูก ภาวะที่ทำให้เลือดไปเลี้ยงใบหน้ามากกว่าปกติเช่นนอนห้อยหัว นวด โยคะ เป็นต้น
สังเกตุการติดเชื้อแลอักเสบหลังเสริมจมูก
- หลังผ่าตัด 1-7 วันแรก จมูกจะมีอาการบวม จากนั้นประมาณ 4-5 วันจะค่อย ๆยุบบวม เป็นระยะที่ต้องระมัดระวังเรื่องการติดเชื้อมากที่สุด
- หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ เริ่มมองเห็นรูปทรงจมูกคร่าว ๆ แต่ยังไม่แห้งดีเพราะซิลิโคนยังไม่ยึดติดกับกระดูกจมูกด้านล่าง ผิวหนังยังหนาตัวมากกว่าปกติ ให้รอดูอาการต่อไปหากจมูกไม่ยุบบวม และมีอาการแดงขึ้นเรื่อย ๆ จนสังเกตได้บริเวณมุมหัวตาแสดงว่าจมูกติดเชื้อและอักเสบ
- ลังผ่าตัด 2-3 สัปดาห์ จมูกจะแห้งดีแล้ว แต่หากกลับบวมขึ้นมาอีกแสดงว่าจมูกติดเชื้อและอักเสบ
ลักษณะอาการที่พบได้เมื่อิดการติดเชื้อหรืออักเสบ
- จมูกที่ติดเชื้อไม่รุนแรง จะมีอาการบวม ๆ ยุบ ๆ
- มูกติดเชื้อปานกลาง จะมีน้ำเหลืองหรือเลือดไหลออกจากด้านในจมูกหรือรอยแผลผ่าตัด ร่วมกับมีอาการบวมแดงและปวด
- จมูกติดเชื้ออย่างรุนแรง สีผิวหนังจมูกกลายเป็นสีดำ ซิลิโคนกินเนื้อจมูก ทำให้เนื้อยุบ จมูกเน่า จมูกทะลุ จมูกหลุด
- การรักษาเมื่อเกิดการติดเชื้อหรืออักเสบ
- จมูกบวมเล็กน้อย รักษาด้วยการกินยาแก้อักเสบ ยาลดบวม
- จมูกติดเชื้อและอักเสบ ต้องทำการผ่าตัดนำซิลิโคนออก กินยาและฉีดยาปฏิชีวนะ จากนั้นพักจมูก 3-6 เดือน จึงจะสามารถเสริมซิลิโคนแท่งใหม่ได้
ป้องกันการติดเชื้อหรืออักเสบหลังเสริมจมูกอย่างไร
ป้องกันจมูกติดเชื้อและอักเสบหลังผ่าตัด โดยการประคบเย็นประมาณ48 ชั่วโมง, นอนให้ศีรษะอยู่สูงกว่าลำตัว, ใช้สำลีหรือผ้าชุบน้ำทำความสะอาดใบหน้าเบา ๆ งดออกกำลังกายหนัก ระมัดระวังการกระแทก หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณแผล, กินยาตามแพทย์สั่งและมาพบแพทย์ตามนัด